|
ชื่อสามัญภาษาไทย | เหงือกปลาหมอดอกม่วง |
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Acanthus ebracteatus Vahl. |
ชื่อวงศ์ | Acanthaceae |
ชื่อท้องถิ่น | แก้มหมอ, แก้มหมอเล (กระบี่); นางเกร็ง, จะเกร็ง, อีเกร็ง (กลาง); เหงือกปลาหมอ, เหงือกปลาหมอน้ำเงิน (ทั่วไป) |
เหงือกปลาหมอดอกม่วงเป็นไม้พุ่มลำต้นเลื้อย สูง 1-2 เมตร ไม่มีเนื้อไม้ ลำต้นเป็นโพรงตั้งตรงแต่เมื่ออายุมากจะเอนนอน ลำต้นแก่จะแตกกิ่งออกไป มีรากค้ำจุน และมีรากอากาศจากลำต้นที่เอนนอน ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงตามข้ามสลับตั้งฉาก มักมีหนามที่โคนก้านใบ 1 คู่ ใบเกลี้ยงก้านใบยาว 1-1.5 ซม. แผ่นใบรูปใบหอกกว้าง ขนาด 3-6 x 7-18 ซม. แคบลงทางฐานใบขอบใบเรียบ ปลายใบกลม หรือเป็นติ่งหนาม หรือขอบใบเว้าเป็นลูกคลื่น มีหนามที่ปลายหยัก หนามนี้มักเกิดที่ปลายเส้นใบหลัก และมีหนามขนาดเล็กกว่าแทรก ปลายใบเป็นสามเหลี่ยมกว้าง มีหนามที่ปลาย ดอก ออกที่ปลายกิ่งแบบช่อเชิงลดยาว 10-20 ซม. ดอกย่อยไม่มีก้านดอก ออกรอบแกนประมาณ 20 คู่ ใบประดับล่างสุดของแต่ละเอกยาว 0.5 ซม. ร่วงหลุดเร็วใบประดับย่อยด้านข้าง 2 ใบ ยาว 0.7 ซม. เด่นชัด และติดคงทน วงกลีบเลี้ยงมี 4 แฉกสีเขียวอ่อน ถึงสีน้ำตาลอมเขียว แฉกบนใหญ่กว่าแฉกล่าง เป็นดอกสมบูรณ์เพศ วงกลีบดอกสมมาตรด้านข้าง ดอกบานเส้นผ่านศูนย์กลาง 3.5-4 ซม. กลีบในด้านบนสั้นมากกลีบล่างใหญ่มี 3 แฉก สีน้ำเงินอ่อน หรือม่วงอ่อน | |
แก้อาการเหน็บชา ริดสีดวง มะเร็ง อัมพาต ปวดเมื่อย ปวดฟัน แก้หืด แก้ไอ แก้คัน ขับเสมหะ เป็นยาอายุวัฒนะ แก้ฝี แก้ท้องเฟ้อ ขับโลหิต ขับน้ำเหลืองเสีย แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย แก้โรคผิวหนัง | |
| |
|