|
ชื่อสามัญภาษาไทย | คว่ำตายหงายเป็น |
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Bryophyllum pinnatum (Lam.) Oken |
ชื่อพ้อง | Kalanchoe pinnata (Lam.) Pers. |
ชื่อวงศ์ | Crassulaceae |
ชื่อท้องถิ่น | กาลำ (ตราด), แข็งโพะ แข็งเพาะ โพะเพะ โพ้ะเพะ (นครราชสีมา), ต้นตายปลายเป็น (จันทบุรี), ทองสามย่าน (กาญจนบุรี), เพรอะแพระ (ประจวบคีรีขันธ์), ส้มเช้า (ประจวบคีรีขันธ์, สุราษฎร์ธานี, ตรัง), มะตบ ล็อบแล็บ ลบลับ ลุบลับ ลุมลัง (ภาคเหนือ), ยาเท้า ยาเถ้า มะตบ ล็อบแลบ ลุบลับ ฮ้อมแฮ้ม (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ), กระลำเพาะ ต้นตายใบเป็น นิรพัตร เบญจฉัตร (ภาคกลาง), กะเร คว่ำตายหงายเป็น (ชลบุรี, ภาคใต้), ปะเตียลเพลิง (เขมร-จันทบุรี), ตะละ ตาละ (มาเลย์-ยะลา), โกดเกาหลี (คนเมือง), สะแกหล่า (กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน), บล้งตัวเก่า (ม้ง), กะลำเพาะ เพลาะแพละ นิรพัตร ต้านตายใบเป็น ฆ้องสามย่านตัวเมีย (ไทย), ลั่วตี้เซิงเกิน (จีนกลาง) |
ต้นคว่ำตายหงายเป็น เป็นพืชดั้งเดิมของทวีปแอฟริกา จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกอายุหลายปี ลำต้นมีความแข็งแรงมากและมีลักษณะตั้งตรง มีความสูงประมาณ 0.4-1.5 เมตร ไม่แตกกิ่งก้านหรือแตกเพียงเล็กน้อย ลำต้นกลม มีเนื้อนิ่มอวบน้ำ ผิวเกลี้ยง ภายในลำต้นและกิ่งก้านกลวง โคนกิ่งเป็นสีเทา ยอดต้นเป็นสีม่วงแดง ส่วนที่ยังอ่อนอยู่ของลำต้นจะมีข้อโป่งพองเป็นสีเขียวและแถบหรือจุดสีม่วงเข้มแต้มอยู่ ส่วนที่แก่แล้วจะมีใบเฉพาะครึ่งบน หรือในช่วงที่ดอกบานนั้นใบเกือบจะไม่มีเลย ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและใบ ขึ้นได้ในดินที่เป็นหิน ในที่โล่งแจ้ง หรือในที่ค่อนข้างร่ม ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลจนถึง 1,000 เมตร เป็นพืชที่ทนทานและสามารถขึ้นได้แม้ในสภาพอากาศที่แห้งแล้ง โดยพบขึ้นกระจายทั่วไปในเขตร้อนของโลก ในกลุ่มประเทศอาเซียน เช่น ลาว เวียดนาม กัมพูชา ใบเป็นใบเดี่ยวหรือเป็นใบประกอบ มีใบย่อย 3 ใบ บางครั้งเป็นใบประกอบแบบขนนกจะมีใบย่อยได้ถึง 5 ใบ ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปวงรีแกมขอบขนาน รูปขอบขนานแกมรูปไข่ หรือรูปรีกว้าง ส่วนปลายและโคนใบจะมน ส่วนขอบใบหยักโค้งเป็นซี่มนตื้น ๆ หนา ฉ่ำน้ำ และเป็นสีม่วง แต่ละรอยจักจะมีตาที่สามารถงอกรากและลำต้นใหม่ได้ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2.5-5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 5-15 เซนติเมตร เส้นใบเห็นได้ไม่ชัดเจน ก้านใบยาวประมาณ 1.5-10 เซนติเมตร มีลักษณะค่อนข้างจะโอบลำต้น ก้านใบจะย่อยและสั้น ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ช่อดอกยาวประมาณ 8-10 เซนติเมตร ก้านช่อดอกยาวประมาณ 3-8 เซนติเมตร ส่วนก้านดอกยาวประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร ดอกย่อยมีจำนวนมาก ดอกมีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอกและห้อยลง มีความยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร กลีบดอกด้านล่างเป็นสีเขียว ส่วนด้านบนเป็นสีแดง ส่วนกลีบรองดอกจะเชื่อมติดกัน ที่ปลายจักเป็นแฉกเป็นรูปสามเหลี่ยมแกมรูปไข่ แบ่งออกเป็น 4 แฉก ตรงปลายแหลม เช่นเดียวกับกลีบดอก ดอกมีเกสรเพศผู้ 8 อัน มีความยาวประมาณ 3.5 เซนติเมตร ส่วนท่อเกสรเพศเมียยาวประมาณ 2.5-3.5 เซนติเมตร รังไข่มีลักษณะเป็นรูปขอบขนานแกมรูปไข่ มีสีเขียว ผิวเกลี้ยง และมีความยาวได้ประมาณ 0.2-1 เซนติเมตร ผลจะออกเป็นพวงและมีอยู่ 4 หน่วย เป็นผลแห้ง แตกตะเข็บเดียว มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอกหุ้มอยู่ ภายในผลมีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมาก มีลักษณะเป็นรูปกระสวยแกมรูปขอบขนานหรือรูปขอบขนานแกมรูปรี | |
| |
|