ต้อยติ่ง
  ชื่อสามัญภาษาไทยต้อยติ่ง
  ชื่อสามัญภาษาอังกฤษWaterkanon, Watrakanu, Minnieroot, Iron root, Feverroot, Popping pod, Cracker plant, Trai-no, Toi ting
  ชื่อวิทยาศาสตร์Hygrophila erecta (Burm.f.) Hochr.
  ชื่อพ้องHygrophila phlomoides var. roxburghii C.B. Clarke)
  ชื่อวงศ์Acanthaceae
  ชื่อท้องถิ่นต้อยติ่งนา (กรุงเทพ), น้ำดับไฟ (ประจวบคีรีขันธ์)
 
 
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

    ต้อยติ่งเป็นไม้ล้มลุก ลำต้น เป็นเหลี่ยมตั้งตรง แตกแขนงเป็นพุ่มเล็กๆ สูง 30-40 เซนติเมตร มีขนปกคลุมลำต้น ส่วนของรากพองโต เก็บสะสมอาหาร

    ใบ ใบเดี่ยวสีเขียวเป็นมัน ออกจากลำต้นแบบตรงข้าม ใบมีรูปร่างแบบใบพายกลีบยาวรี ปลายใบมน

    ดอก ดอกเดี่ยวสีม่วง ออกบริเวณซอกใบ กลีบเลี้ยงลักษณะเรียวแหลม 5 กลีบ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 4-5 เซนติเมตร กลีบดอกส่วนโคนรวมกันปลายแยกออกเป็น 5 กลีบ รูปปากแตร

    ผล เป็นฝักทรงกลม ผิวเรียบเป็นสัน 5 เหลี่ยม ผิวสีน้ำตาลเข้มภายในมีเมล็ดสีน้ำตาลเข้ม 6-8 เมล็ด ผลแก่เมื่อโดนน้ำจะแตกออกเป็น 2 ซีก เมล็ดทรงกลมมีงอยยื่นออกจากเมล็ดทั้งสองด้านตรงข้ามกัน ผิวเมล็ดเรียบ แต่มีขนสีขาว บนผิวเมล็ดบ้างเล็กน้อย

สรรพคุณทั่วไป

  • ราก สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการล้างพิษในกระแสเลือด ด้วยการช่วยทำให้อ้วกและช่วยขับปัสสาวะเพื่อขับของเสียในร่างกายออกมา อีกทั้งยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคเกี่ยวกับไตและโรคไอกรนได้อีกด้วย
  • ใบ สามารถนำมาดับกลิ่นได้ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นตัว กลิ่นเท้า หรือกลิ่นปาก อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการต่อต้านการเสื่อมถอย จึงนิยมนำมาสกัดเป็นสมุนไพรชะลอวัย
  • เมล็ด ในเมล็ดต้อยติ่งมีสารลูทอีโอลิน ซึ่งเป็นสารที่พบได้ในน้ำนมแม่ จึงมีสารอาหารสูง อีกทั้งยังมอบคุณสมบัติด้านความงาม ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น ต่อต้านอนุมูลอิสระ และยังต่อต้านเชื้อโรคต่าง ๆ อีกด้วย

 
 
วิธีใช้โดยทั่วไป

หมอยาพื้นบ้านโบราณจะใช้ต้อยติ่งทั้งต้น เลือกเอาชนิดที่ไม่แก่ ดอกยังไม่โรย ถอนเอาทั้งรากอย่าให้รากขาด อย่าให้เมล็ดแตก สัก 4-5 ต้น นำไปล้างให้สะอาด แล้วโขลก คั้นเอาแต่น้ำดื่ม แก้ปวดเข่า ขาชา ใช้เวลาประมาณ 7 วันก็หาย
แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. http://srdi.yru.ac.th/bcqy/view/314_ต้อยติ่ง.html
  2. https://th.m.wikipedia.org/wiki/ต้อยติ่ง
  3. https://kaset.today/สมุนไพร/ต้อยติ่ง/
  4. https://medthai.com/ต้อยติ่ง/