|
ชื่อสามัญภาษาไทย | ชิงชัน |
ชื่อสามัญภาษาอังกฤษ | Tamalin หรือ Rosewood หรือ Blackwood |
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Dalbergia oliveri Gamble |
ชื่อวงศ์ | Fabaceae |
ชื่อท้องถิ่น | ประดู่ชิงชัน (ภาคกลาง), กระซิบ ประดู่สับ (สุราษฎร์ธานี), เก็ด เก็ดดำ เก็ดแดง (เชียงใหม่), กำพี้ต้น พะยูงหิน (เพชรบูรณ์), ดู่ลาย (ลำปาง), ดู่สะแดน (ภาคเหนือ), พะยูงแกลบ (สระบุรี), พะยูงแดง (พิษณุโลก), ยูน (จันทบุรี), หมากพลูตั๊กแตน (ภาคใต้) |
ชิงชันเป็นไม้ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ผลัดใบ สูงถึง 25 เมตร เปลือกหนา สีน้ำตาลเทา กระเทาะล่อน เป็นแผ่นขนาดเล็ก เปลือกในสีเหลือง ยอดและใบอ่อนออกสีแดง เกลี้ยงหรือมีขนเพียงเบาบาง ใบชิงชันเป็นช่อ มีใบประกอบย่อย 11-17 ใบ มีลักษณะยาวรี รูปขอบขนานแกมรูปหอก ฐานใบมนกลม ปลายใบมนทู่และหยักเว้าเล็กน้อย ทางด้านท้องใบจะมีสีจางกว่าด้านหลังใบ ดอกชิงชันสีขาวอมม่วง ออกเป็นช่อดอกเชิง ประกอบตามปลายกิ่ง ดอกจะเกิดพร้อมกับการผลิตใบใหม่ เกสรผู้แยกเป็น 2 กลุ่มๆ ละ 5 อัน ฝักชิงชันมีลักษณะแบนแผ่เป็นปีกยาวรีหรือขอบรูปขนาน กว้าง 3-3.5 ซม. ยาว 8-17 ซม. ผิวเรียบส่วนที่หุ้มเมล็ดหนาแข็ง มีลักษณะเป็นกระเปาะกลมหรือแกนรีเล็กน้อย นูนเห็นได้ชัด ส่วนมากมีเมล็ดเดียว มีลักษณะคล้ายรูปไตสีน้ำตาล | |
แก่นรสฝาดร้อน ช่วยบำรุงโลหิตสตรี เปลือกรสฝาด ใช้ต้มชะล้างสมานบาดแผล ช่วยรักษาแผลเรื้อรัง | |
เป็นยาสมานรักษาแผล นำเปลือกที่แห้งแล้วมาบดให้เป็นผงละเอียด จาก นั้นนำมาโรยบริเวณที่เป็น ใช้ยาเรื่อย ๆ จนกว่าแผลจะหาย | |
|