หางเสือ
  ชื่อสามัญภาษาไทยหางเสือ
  ชื่อสามัญภาษาอังกฤษPlatostoma cochinchinense
  ชื่อวิทยาศาสตร์Platostoma cochinchinense (Lour.) A.J.Paton
  ชื่อวงศ์Fabaceae
  ชื่อท้องถิ่นหางหมาจอก ดอกหางเก้ง หญ้าตะขาบ หญ้าหางกระรอก หญ้าหางแมว
 
 
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

หางเสือเป็นไม้พุ่ม ลำต้นตั้งตรงสูง 90 – 120 เซนติเมตร 

ใบประกอบแบบขนนกมีใบย่อย 3 ใบ (trifoliate) ใบย่อยบนสุดรูปรี (elliptic) ใบย่อยด้านข้างรูปรี แต่ฐานใบข้างหนึ่งsเบี้ยวเอียง ใบย่อยบนสุดกว้าง 2.6 – 4.5 เซนติเมตร ยาว 8.3 – 11.5 เซนติเมตร ใบย่อยด้านข้าง กว้าง 3.1 – 4.4 เซนติเมตร ยาว 7.6 – 10.6 เซนติเมตร หน้าใบไม่มีขน หลังใบมีขนสั้นๆ ปกคลุมปานกลาง ก้านใบรวมยาว 4.7 – 7.6 เซนติเมตร ก้านใบย่อยบนสุด ยาว 0.2 – 0.6 เซนติเมตร ก้านใบย่อยด้านข้าง ยาว 0.2 – 0.4 เซนติเมตร หูใบรูปแถบเรียวยาว 

ดอกช่อกระจะเชิงลด ออกดอกที่ยอดและซอกใบ มีดอกย่อย 22 – 46 ดอก กลีบดอกรูปดอกถั่ว กลีบดอกส่วนกลาง (standard) สีเขียวตองอ่อนมีริ้วสีม่วงแดงสลับ กลีบดอกคู่ด้านข้าง (wing) สีม่วงแกมชมพู ส่วนกลีบดอกคู่ล่างสุด (keel) สีเขียวตองอ่อนมีริ้วม่วงแดง 

ผลเป็นฝักรูปขอบขนานมีขนละเอียดสั้นๆ ปกคลุมหนาแน่นที่เปลือก และมีริ้วสีม่วงแดงพาดที่ฝัก ยาว 1.2 – 1.5 เซนติเมตร แตกเป็น 2 ฝา มี 1 – 2 เมล็ด

สรรพคุณทั่วไป

ยาพื้นบ้านอีสานใช้
  • ทั้งต้นต้มนํ้าดื่มขับเลือดเสีย 
  • สารสกัดนํ้าจากทั้งต้น ต้านเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด 
  • ใบและราก มีสารกลุ่มฟลาโวนอยด์

 
 
แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม 2 Flora of China, Volume 10, Page 235
  2. https://www.matichonweekly.com/column/article_124320
  3. https://d.dailynews.co.th/agriculture/734064/
  4. ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม