เข้าพรรษา
  ชื่อสามัญภาษาไทยเข้าพรรษา
  ชื่อวิทยาศาสตร์Globba winitii C.H. Wright
  ชื่อวงศ์Zingiberaceae
  ชื่อท้องถิ่นกล้วยจะก่าหลวง ข่าเจ้าคุณวินิจ (ทั่วไป) ว่านสาวหลง (ภาคกลาง), เข้าพรรษา (อุบลราชธานี สระบุรี), กลางคาน
 
 
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ต้นเข้าพรรษาเป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี มีเหง้าใต้ดิน ลำต้นสูง 50-70 ซม. 

ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน กว้าง 5.5-20 เซนติเมตร ยาว 15-25 เซนติเมตร โคนใบรูปหัวใจแคบๆ แฉกลึก ปลายใบเรียวแหลม ใบอ่อนมีขนสีขาวเล็กๆ ปกคลุม ก้านใบยาว 5-7 ซม. ส่วนโคนแผ่เป็นกาบหุ้มซ้อนกันเป็นลำต้นเทียม 

ช่อดอกแบบช่อกระจะ แยกแขนงสั้นๆ ออกที่ปลายยอด กลีบดอกสีเหลือง กลีบดอกพัฒนามาจากเกสรตัวผู้ที่เป็นหมัน ช่อดอกยาว 8-15 ซม. ห้อยโค้งลง ก้านช่อยาว ใบประดับรูปไข่กว้าง รูปขอบขนานหรือรูปใบหอกกลับ สีขาวอมชมพูหรือสีม่วงเข้มรองรับ ยาว 1-3 ซม. ปลายมน แหลม หรือแหลมยาว ใบประดับย่อยสีขาว แต่ละช่อแขนงมี 2-3 ดอก ใบประดับย่อยสีเดียวกับใบประดับ ขนาดเล็กกว่า กลีบเลี้ยงยาวได้ประมาณ 0.5 ซม. ปลายแยกเป็น 3 แฉก หลอดกลีบดอกยาวประมาณ 1.5 ซม. กลีบดอกยาวเท่าๆ กัน ยาวประมาณ 0.5 ซม. เกสรเพศผู้ที่เป็นหมันติดบนหลอดกลีบดอก รูปใบหอก ยาวเท่าๆ หลอดกลีบดอก กลีบปากติดเหนือเกสรเพศผู้ที่เป็นหมันประมาณ 1 ซม. รูปสามเหลี่ยมกางออกสองข้าง ปลายแหลม เกสรเพศผู้ 1 อัน ก้านเกสรโค้งลง ยาวประมาณ 2 ซม. หุ้มก้านเกสรเพศเมีย ปลายเกสรเพศผู้แผ่รูปดาว ข้างละ 2 แฉก ก้านเกสรเพศเมียรูปเส้นด้าย ยอดเกสรรูปถ้วย 

ผลรูปไข่ ยาวประมาณ 0.7 ซม. มี 3 พู ตื้นๆ ผิวด้านนอกขรุขระ เมล็ด 6 เมล็ด กล้วยจะก่าหลวงเป็นพืชถิ่นเดียว และพืชหายากของไทย พบตามป่าเบญจพรรณและป่าดิบเขา ระดับความสูงจนถึงประมาณ 1,000 เมตร ออกดอกช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม

สรรพคุณทั่วไป

  • เหง้า นำมาใช้เป็นส่วนผสมของยาสระผม สบู่ ใช้ในการรักษาอาการคันตามผิวหนัง

 
 
แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=207