พริกขี้นก
  ชื่อสามัญภาษาไทยพริกขี้นก
  ชื่อวิทยาศาสตร์Capsicum annuum L.
  ชื่อวงศ์Solanaceae
  ชื่อท้องถิ่น
 
 
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

พริกขี้นกเป็นพืชล้มลุก เป็นไม้พุ่ม อายุสั้น ประมาณไม่เกิน 3 ปี เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในแถบทวีปอเมริกา เมล็ด สามารถนำเมล็ดไปขยายพันธ์ต่อได้ ลักษณะของพริกมีรายละเอียด ดังนี้ ลำต้นของพริก ความสูงของต้นพริกประมาณไม่เกิน 1 เมตร ลักษณะมีการแตกกิ่งก้านสาขาจำนวนมากมาก กิ่งมีสีเขียว และสีน้ำตาล 

ใบของพริกขี้นก เป็นใบเดี่ยว สีเขียว ใบเรียงสลับกันตามกิ่งก้าน ใบเป็นรูปไข่ ปลายแหลม ผิวใบเรียบ 

ดอกของพริกขี้นก ออกเป็นช่อ ลักษณะดอกจะกระจุกตามซอกใบ มีช่อละ 2 ถึง 3 ดอก และดอกจะเปลี่ยนเป็นผลพริก 

ผลของพริกขี้นก ลักษณะของผลพริกจะยาวรี ปลายแหลม ผลมีสีเขียว เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ภายในผลมีเมล็ด สามารถนำเมล็ดไปขยายพันธ์ต่อได้

สรรพคุณทั่วไป

มีการนำเอาพริกมาใช้ประโยชน์ในการรักษาโรค ในทุกส่วนของพริก ทั้ง ต้น ผล ใบ ซึ่งเราได้แยกสรรพคุณขอพริกตามส่วนต่างๆ ของพริกมาให้ ดังนี้ 
  • ใบของพริก ช่วยเจริญอาหาร ช่วยขับลม ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด ช่วยผ่อนคลาย รักษาไข้หวัด แก้อาการปวดหัว ช่วยแก้อาการคัน ใช้รักษาแผลสดและแผลเปื่อย ใช้รักษาอาการบวม ฟกช้ำดำเขียว ปวดตามข้อ เคล็ดขัดยอก 
  • ผลพริก ช่วยเจริญอาหาร ช่วยกระตุ้นน้ำย่อย ช่วยบำรุงร่างกาย รักษาโรคพยาธิในลำไส้ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยลดน้ำหนัก ลดไขมันในเส้นลือด ช่วยบำรุงเลือด ช่วยรักษาโรคความดัน ช่วยสลายลิ่มเลือด ช่วยลดการอุดตันของหลอดเลือด ช่วยขับเสมหะ ลดน้ำมูก บรรเทาอาการไอ รักษาการอาเจียน ใช้ขับน้ำคาวปลาของสตรีหลังคลอด สมุนไพรสำหรับสตรีหลังคลอด ช่วยรักษาโรคหิด รักษากลากเกลื้อน แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ช่วยกระตุ้นให้ผมงอก 
  • รากของพริก ช่วยบำรุงเลือด ช่วยฟอกเลือด เป็นยารักษาโรคเก๊าท์ ช่วยลดอาการปวด 
  • ลำต้นพริก นำมาทำยาแก้กระษัย เป็นยาขับปัสสาวะ แก้เท้าแตก

 
 
วิธีใช้โดยทั่วไป

  • ใช้ขับน้ำคาวปลาของสตรี ด้วยการใช้ผงพริกขี้หนู 1 ช้อนโต๊ะ นำมาผสมกับน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยชา ใช้กินครั้งละ 1/2-1 ถ้วยชา โดยให้กินครั้งเดียว ส่วนครั้งต่อไปให้ใช้เหล้าแทนน้ำส้มสายชู ใช้กินวันละ 2-3 ครั้ง จะช่วยขับน้ำคาวปลาให้ตกได้ แต่ถ้าน้ำคาวปลาไม่ตกในสตรีคลอดบุตร จะทำให้มีอาการหน้ามืด จุกแน่นในท้องในอก รู้สึกอึดอัด กัดกรามแน่น ใจคอหงุดหงิด หนาวสั่น หูดับ เป็นลมหลับไป หากแก้ไม่ทันอาจเสียชีวิตได้ สำหรับผงถ่านนั้นได้จากการนำพริกขี้หนูแห้ง 1 กำมือ ใส่ลงในกระทะตั้งไฟจนควันขึ้น จุดไม้ขีดแหย่ลงไป แล้วพริกขี้หนูจะติดไฟ ทิ้งไว้สักพักพริกขี้หนูจะไหม้ดำเป็นถ่านหมด แล้วจึงตักออกมาจากกระทะใส่จาน หากะลาหรือถ้วยมาครอบพริกเผาเอาไว้จนไฟดับหมด เสร็จแล้วให้นำมาบดให้ละเอียด ก็จะได้ผงถ่านพริกขี้หนูตามต้องการ (ห้ามกินยานี้ก่อนการคลอดบุตร เพราะทำให้คลอดลูกไม่ออก และอาจทำให้ถึงตายได้) 
  • ใช้รักษาอาการบวม ฟกช้ำดำเขียว ปวดตามข้อ เคล็ดขัดยอก ช่วยทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ด้วยการใช้พริกขี้หนูแก่สีแดงตากแห้ง แล้วนำมาบดให้เป็นผงละเอียด เทลงในวาสลินที่เคี่ยวจนเหนียว กวนให้เข้ากัน แล้วนำไปเคี่ยวอีกจนได้กลิ่นพริก ใช้เป็นยาทาถูเพื่อรักษาอาการเคล็ด ฟกช้ำดำเขียว และอาการปวดตามข้อ โดยให้ทาบริเวณที่เป็นวันละ 1-2 ครั้ง ส่วนการนำมาใช้เป็นยาแก้บวมอีกวิธี จากข้อมูลระบุให้ใช้ใบพริกขี้หนูนำมาบดผสมกับน้ำมะนาว ใช้เป็นยาพอกบริเวณที่มีอาการบวม 
  • ใช้แก้อาการปวดเมื่อยตามตัว ขับลมชื้นตามร่างกาย ด้วยนำผลพริกขี้หนูแห้งมาแช่ในแอลกอฮอล์ 90% ในปริมาณ 1,000 ซีซี นาน 2 สัปดาห์ แล้วใช้สำลีชุบน้ำยาทาบริเวณที่เป็น

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. https://beezab.com/tag/พริกขี้นก/