สิงหโมรา
  ชื่อสามัญภาษาไทยสิงหโมรา
  ชื่อวิทยาศาสตร์Cyrtosperma johnstonii (N.E.Br.) N.E.Br.
  ชื่อพ้องAlocasia johnstonii N.E.Br.
  ชื่อวงศ์Araceae
  ชื่อท้องถิ่นว่านสิงหโมรา ผักหนามฝรั่ง (กรุงเทพฯ)
 
 
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

สิงหโมราจัดเป็นไม้ล้มลุก ที่มีหัวอยู่ใต้ดิน ลำต้นสั้นพ้นผิวดินขึ้นมาเพียงเล็กน้อย ลำต้นเป็นสีชมพูอ่อน ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ดและวิธีการแยกหัว เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี มีความชื้นสูง และชอบแสงแดดรำไร เวลาปลูกให้กลบดินแต่พอมิดหัวเท่านั้น ควรนำมาเพาะในกระถางให้ต้นโตพอสมควรก่อน แล้วค่อยย้ายไปปลูกในที่ซึ่งเป็นดินโคลนหรือดินเลนหรือจะปลูกในดินร่วน ๆ คลุกด้วยใบพืชผุพังก็ได้ รดน้ำแต่อย่าให้น้ำท่วมขัง มักพบขึ้นตามบริเวณลำธารที่พื้นเป็นดินโคลนเลนตามป่าดิบชื้นทั่วไปที่มีแสงแดดแบบรำไร 

ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเป็นกระจุกใกล้ราก แทงออกมาจากหัวใต้ดิน ลักษณะของใบเป็นรูปเงี่ยงใบหอกถึงรูปหัวลูกศร ยาวได้ถึง 60 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบเป็นรูปเงี่ยงลูกศร ส่วนขอบใบเรียบ ท้องใบและหลังใบเรียบ ส่วนก้านใบยาวประมาณ 60 เซนติเมตร มีจุดประสีขาว สีเขียว สีน้ำตาล และชมพู ส่วนขอบก้านใบมีหนามทู่ เส้นใบเป็นสีชมพูสดเมื่อยังเป็นใบอ่อน แผ่นใบมีแต้มสีน้ำตาลแดง เส้นใบเป็นสีเขียวถึงสีน้ำตาล โคนใบเป็นพูยาว กาบใบเป็นรูปเรือ สีม่วงเข้มด้านนอก สีเขียวแกมเหลืองด้านใน 

ออกดอกเป็นช่อเป็นแท่งกลมยาว แทงออกมาจากกาบใบ ดอกย่อยส่วนใหญ่จะเป็นดอกแบบสมบูรณ์เพศ มีใบประดับขนาดใหญ่คล้ายกาบสีน้ำตาลหุ้มอยู่ด้านหนึ่ง 

ผลเป็นผลสดมีขนาดเล็ก ผลจะมีเนื้อนุ่มหุ้มอยู่ข้างนอก ส่วนภายในจะมีเปลือกหุ้มเมล็ดที่แข็งมาก

สรรพคุณทั่วไป

  • ก้านใบนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ดองกับเหล้า ใช้กินเป็นยาช่วยเจริญอาหาร ช่วยฟอกเลือดบำรุงโลหิต ซึ่งเหมาะสำหรับสตรี โดยให้ดื่มกินก่อนอาหารครั้งละ 2-3 ช้อนโต๊ะ หรือจะใช้ส่วนของเหง้า กาบต้น หรือทั้งต้นนำมาดิงกับเหล้ากินก็มีสรรพคุณบำรุงโลหิตเช่นกัน 
  • ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง 
  • ต้นและใบมีรสร้อน ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ 
  • ทั้งต้นนำมาดองกับเหล้ากินเป็นยาช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย 
  • ช่วยบำรุงกำลัง 
  • ใช้เป็นยาแก้ลมวิงเวียนบ่อย ๆ หน้ามืด ซูบซีด ด้วยการนำต้นและใบมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ผสมกับมะตูมอ่อนและกล้วยน้ำว้าห่าม นำมาดองกับเหล้า 15 วัน หรือบดให้เป็นผงละเอียดผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นยาลูกกลอน ใช้รับประทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 เวลา เช้าและเย็น 
  • ช่วยในการย่อยอาหาร 
  • ทั้งต้นมีรสร้อน ใช้ดิงกับเหล้าดื่มกินเป็นยาช่วยขับน้ำคาวปลาของสตรี 
  • ดอกมีสรรพคุณช่วยทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ ด้วยการนำดอกมาปิ้งกับไฟให้เหลืองแล้วดองกับเหล้า ใช้กินเป็นยาแก้ประจำเดือนมาไม่ปกติของสตรี 
  • ต้นและใบมีรสร้อน มีสรรพคุณช่วยรักษามดลูกสำหรับสตรีหลังการคลอดบุตรใหม่ 
  • ก้านใบนำมาดองกับเหล้ากินเป็นยาแก้โรคอยู่ไฟไม่ได้ หรือโดนเลือดลมกระทำ อันเป็นเหตุให้ผอมแห้งแรงถอย โดยท่านให้ดื่มกินก่อนอาหารครั้งละ 2-3 ช้อนโต๊ะ 
  • ช่อดอกนำมาปิ้งไฟแล้วดองกับเหล้า ใช้กินเป็นยารักษาโรคริดสีดวงทวาร 
  • ใบมีรสร้อน นำมาตำพอกผสมกับเหล้า ใช้เป็นยาพอกฝีที่ไม่เป็นหนองให้แห้งหายไป 
  • เหง้ามีรสร้อน นำมาฝนกับน้ำหรือฝนกับเหล้าแล้วนำไปปิดปากแผลที่ถูกแมงป่องหรือตะขาบกัดต่อย จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ 
  • ก้านใบใช้ปรุงเป็นยาดูดพิษ และกำจัดสารพิษต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ 
  • ช่วยบำรุงกล้ามเนื้อและบำรุงเส้นเอ็น 
  • นอกจากนี้บางข้อมูลยังระบุด้วยว่าว่านสิงหโมรามีสรรพคุณเป็นยาแก้โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิต โดยวิธีการปรุงเป็นยาให้ใช้ต้นนำมาหั่นให้ละเอียด นำมาล้างให้สะอาดแล้วนำไปตากแดดให้แห้งประมาณ 2-3 วัน หลังจากนั้นนำมาต้มกับน้ำ แล้วนำน้ำที่ได้มาดื่มกินเป็นประจำทุกวัน หรืออาจใช้ดื่มแทนน้ำเปล่าเลยก็ได้ (แต่ข้อมูลตรงส่วนนี้ยังไม่มีรายงานทางเภสัชวิทยามายืนยันนะครับว่ามีฤทธิ์ดังกล่าวจริงหรือไม่)

 
 
วิธีใช้โดยทั่วไป

  • ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับเพื่อความสวยงาม ยามเจ็บไข้ ก็จับนำมาใช้ทำเป็นยาได้ 
  • ในด้านความเป็นมงคล มีความเชื่อว่าว่านสิงหโมรามีอานุภาพทางด้านป้องกันภูตผีปีศาจ และยังเชื่อว่าเป็นว่านคุ้มครองป้องกันภัยพิบัติต่าง ๆ ไม่ให้เข้ามาใกล้ โดยจะนิยมนำมาปลูกไว้ตามริมคลองหรือหน้าบ้านที่พักอาศัย เมื่อว่านออกดอกให้หาผ้าขาวบริสุทธิ์มาผูกรอบกระถาง ถ้าจะให้ดีควรปลูกในวันอังคารหรือวันพฤหัสบดีข้างขึ้น และให้รดน้ำที่เสกด้วยคาถา “อิติปิโสฯ” หรือ “นะโมพุทธายะ” 3 จบเสมอ ผู้ที่เป็นเจ้าของจะสมใจปองในสิ่งที่พึงประสงค์ไว้ (หนามของว่านจะใช้เป็นเครื่องกันภูตผีปีศาจได้)

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1. (ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย มังคละคุปต์). “สิงหโมรา (Singha Mora)”. หน้า 304. 
  2. “สิงหโมรา”. หน้า 98. 
  3. หน่วยบริการฐานข้อมูลสมุนไพร สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. “ว่านสิงหโมรา” [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.medplant.mahidol.ac.th. [13 มิ.ย. 2014]. 
  4. สมุนไพรดอทคอม. “สิงหโมรา”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.samunpri.com. [13 มิ.ย. 2014]. 
  5. อภัยภูเบศรสาร ฉบับที่ 40 ประจำเดือนตุลาคม 2549. “สิงหโมรา”. หน้า 3.
  6. ๑๐๘ พรรณไม้ไทย. “ว่านสิงหะโมรา”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.panmai.com. [13 มิ.ย. 2014].