ฟักเขียว
  ชื่อสามัญภาษาไทยฟักเขียว
  ชื่อสามัญภาษาอังกฤษWinter melon, White gourd, Winter gourd, Ash gourd
  ชื่อวิทยาศาสตร์Benincasa hispida (Thunb.) Cogn.
  ชื่อพ้องมะฟักหอม
  ชื่อวงศ์Cucurbitaceae
  ชื่อท้องถิ่นฟัก, แฟง, ฟักขาว, ฟักแผง, ฟักจีน, ฟักหอม (ภาคกลาง), มะฟักหม่น, มะฟักขี้หมู, ฟักหม่น (ภาคเหนือ), บักฟัก (ภาคอีสาน), ขี้พร้า(ภาคใต้), หลู่สะ, หลู่ซะ (กะเหรี่ยง), ตังกวย (จีน), หมากปักหม่น (ไทยใหญ่)
 
 
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ต้นฟักเขียว เป็นพืชอายุสั้น ลำต้นยาวหลายเมตร ลำต้นมีสีเขียว มีขนหยาบขึ้นปกคลุมอยู่ทั่วทั้งต้น เป็นพืชที่แตกกิ่งก้านสาขามาก ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ด สามารถปลูกได้ดีในดินร่วนปนทราย ปลูกเพียง 3 เดือนก็สามารถเก็บผลผลิตได้

ใบฟักเขียว ลักษณะของขอบใบหยักเป็นเหลี่ยม แยกออกเป็น 5-11 แฉกคล้ายฝ่ามือ ปลายใบแหลม ขอบใบหยักแบบซี่ฟัน โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจกว้าง ๆ ใบออกเรียงสลับกันตามข้อต้น ผิวใบหยาบ มีขนปกคลุมทั้งสองด้าน ใบมีสีเขียวเข้ม แผ่นใบกว้างประมาณ 10-20 เซนติเมตรและยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร ส่วนก้านใบยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร

ดอกฟักเขียว ออกดอกตามง่าม ดอกเป็นดอกเดี่ยว มีสีเหลือง ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียจะอยู่ต้นเดียวกัน เมื่อดอกบานเต็มที่จะกว้างประมาณ 6-12 เซนติเมตร โดยดอกเพศผู้จะมีก้านดอกยาว 5-15 เซนติเมตร มีกลีบรองดอกโคนเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็นกลีบ 5 กลีบ กลีบเป็นรูปไข่หัวกลับ ยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร มีเส้นมองเห็นได้ชัดเจน มีเกสรตัวผู้ 3 อันติดอยู่ใกล้กับปากท่อดอก และอับเรณูจะหันออกไปด้านนอก ส่วนดอกเพศเมีย ก้านดอกจะสั้น มีกลีบรองดอกและกลีบดอกลักษณะเหมือนดอกเพศผู้ เป็นรูปไข่หัวกลับหรือเป็นรูปทรงกระบอก ยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร มีขนยาวปกคลุมอยู่หนาแน่น มีท่อรังไข่สั้น ปลายท่อแยกออกเป็น 3 แฉก

ผลฟักเขียว ลักษณะของผลเป็นรูปกลมยาว หรือเป็นรูปไข่แกมขอบขนานหรือขอบขนานค่อนข้างยาว ผลมีความกว้างประมาณ 10-20 เซนติเมตรและยาวประมาณ 20-40 เซนติเมตร ผลอ่อนมีขน ส่วนผลแก่ผิวนอกมีนวลเป็นแป้งสีขาวเคลือบอยู่ เปลือกแข็งมีสีเขียว เนื้อด้านในมีสีขาวปนเขียวอ่อน ฉ่ำน้ำ เนื้อแน่นหนา เนื้อตรงกลางฟูหรือพรุน และมีเมล็ดสีขาวอยู่ภายในจำนวนมาก

เมล็ดฟักเขียว ลักษณะของเมล็ดเป็นรูปไข่ เมล็ดแบน มีความกว้างประมาณ 5-7 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 10-15 มิลลิเมตร ผิวเรียบมีสีขาวหรือสีน้ำตาลอ่อน

สรรพคุณทั่วไป

  • แก้โรคบิด
  • แก้ฟกช้ำ
  • แก้ร้อนในกระหายน้ำ
  • แก้บวมอักเสบมีหนอง
  • แก้พิษผึ้งต่อย
  • ช่วยรักษาบาดแผล
  • แก้ธาตุพิการ
  • ช่วยขับปัสสาวะ
  • ช่วยขับเสมหะ
  • แก้ไอ
  • แก้หลอดลมอักเสบ
  • แก้โลหิตเป็นพิษ
  • แก้ไข้
  • แก้ริดสีดวงทวาร
  • แก้โรคทางเดินปัสสาวะ
  • แก้ตกขาว
  • ช่วยละลายเสมหะ
  • แก้ไตอักเสบ
  • ช่วยบำรุงผิว
  • แก้อาเจียนเป็นโลหิต
  • แก้ฝีที่เต้านม
  • ช่วยขับพยาธิ
  • ช่วยเพิ่มพลังเพศ
  • เป็นยาระบาย
  • ใช้รักษาโรคชัก
  • แก้โรคปอดและหอบหืด
  • โรคเส้นประสาท
  • รักษาโรคเบาหวาน

 
 
วิธีใช้โดยทั่วไป

  • แก้ไตอักเสบบวมน้ำ โดยใช้เปลือกฟัก 120 กรัม หนวดข้าวโพด 30 กรัม ต้มกิน โดยแบ่งน้ำที่ต้มได้เป็น 3 ส่วน ใช้กิน 3 เวลา
  • รักษาเบาหวาน โดยต้มฟักที่ปลอกเปลือกแล้ว ต้มน้ำกินครั้งละ 60-90 กรัมเป็นประจำ จะทำให้เบาหวานลดลง
  • แก้เบาขัดในสตรีระหว่างตั้งครรภ์ นำฟักเขียวมาคั้นเอาน้ำ 1 แก้ว ผสมน้ำผึ้งให้พอมีรสหวาน ดื่มบ่อยๆ
  • ไออักเสบเรื้อรัง  ใช้เมล็ดฟัก 15-30 กรัม ต้มกินน้ำ
  • แก้ร้อนใน ไข้สูง หรือไตอักเสบเรื้อรัง  ใช้ฟักเขียว 500 กรัม ต้มน้ำให้ได้ประมาณ 3 แก้ว แบ่งกิน 3 ครั้ง ใน 1 วัน
  • แก้ระดูขาว โดยใช้เมล็ดฟัก 30 กรัม บดเป็นผง เติมน้ำตาลกรวด 30 กรัม ตุ๋นกินวันละ 2 ครั้ง
  • แก้ริดสีดวงทวาร และอาการอักเสบเจ็บบริเวณทวารหนัก โดยต้มฟักแล้วเอาน้ำล้างบริเวณที่เป็นจะลดการอักเสบได้
  • เอวแก้ฟกช้ำบวมเคล็ด โดยใช้เปลือกฟักผิงไฟให้แห้ง บดเป็นผงผสมเหล้ากินครั้งละ 6 กรัมจะช่วยลดความเจ็บปวดได้
  • ใบช่วยแก้พิษจากการถูกผึ้งต่อย
  • ใช้ลบเลือนรอยด่างดำบนใบหน้า โดยใช้ไส้ในผลสด 30-60 กรัม นำมาต้มหรือคั้นเอาแต่น้ำชโลมบนใบหน้าทิ้งไว้ 3-5 นาทีแล้วล้างออก

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. https://arit.kpru.ac.th/ap2/local/?nu=pages&page_id=1765&code_db=610010&code_type=01
  2. https://www.doctor.or.th/article/detail/5573
  3. https://www.disthai.com/17189459/ฟักเขียว
  4.  วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (en)
  5. www.the-than.com
  6. www.nanagarden.com
  7. www.thaiseed.co.th
  8. www.flickr.com (by HEN-Magonza)
  9. www.flowersofindia.net
  10. www.easymenutoday.blogspot.com