เตยหนาม
  ชื่อสามัญภาษาไทยเตยหนาม
  ชื่อสามัญภาษาอังกฤษpandanus
  ชื่อที่เกี่ยวข้องการะเกดด่าง ล้าเจียกหนู เตยดง เตยด่าง
  ชื่อวิทยาศาสตร์Pandanus tectorius Sol. ex Parkinson
  ชื่อพ้องPandanus pedunculatus R.Br
  ชื่อวงศ์Pandanaceae
  ชื่อท้องถิ่นการะเกดด่าง ล้าเจียกหนู เตยดง เตยด่าง
 
 
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

เตยหนามเป็นไม้พุ่มกึ่งไม้ต้น สูง 3-7 ม. ล้าต้นมักแตกกิ่งก้านสาขา มีรากอากาศค่อนข้างยาว และใหญ่ 

ใบเดี่ยวเรียงเวียนสลับกันเป็น 3 เกลียวที่ปลายกิ่ง รูปร่าง กว้าง 0.7-2.5 ซม.ยาว 3-9 ซม. ค่อยๆ เรียวแหลมไปหาปลายขอบมีหนามแข็งยาว 0.2-1 ซม. แผ่นใบด้านล่างมีนวล 

ดอกแยกเพศ อยู่ต่างต้นกัน ออกตามปลายยอด มีจำนวนมาก ติดบนแกนของช่อ ไม่มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอก ช่อดอกเพศผู้ตั้งตรง ยาว 25-60 ซม. มีกาบสีนวลหุ้ม กลิ่นหอม เกสรเพศผู้ติดรวมอยู่บนก้านซึ่งยาว 0.8-2 ซม. ช่อดอกเพศเมียค่อนข้างกลม ประกอบด้วยเกสรเพศเมียเชื่อมติดกัน 3-5 อัน เป็นกลุ่ม 5-12 กลุ่ม แต่ละกลุ่มกว้าง 2-5 ซม. ยาว 3-7 ซม. ปลายหยักตืนเป็นร่องระหว่างยอดเกสรเพศเมีย ยอดเกสรเพศเมียเรียงเป็นวง 

ผลเบียดกันแน่นเป็นก้อนกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 10-20 ซม. แต่ละผลกว้าง 2-6.5 ซม. ยาว 4-7.5 ซม. เมื่อสุกหอม โคนสีเหลือง ตรงกลางสีแสด ตรงปลายยอด สีน้ำตาลอมเหลือง ผลที่สุกแล้วมีโพรงอากาศจำนวนมาก

 
 
วิธีใช้โดยทั่วไป

ต้องใช้แรงงานทอ 2 คน คือ 
  • คนที่ 1 ทำหน้าที่ส่งใบเตยหนามตากแห้งด้วยกระสวยหรือไม้ส่ง เส้นใบเตยหนามตากแห้งเข้าเครื่องทอ ไม้ส่งเส้นใบเตยมีความยาว 2-3 เมตร ที่ด้านปลายไม้ส่งจะมีที่หนีบ เมื่อส่งเส้นใบเตยหนามจากด้านหนึ่งไปยังด้านที่อยู่ตรงข้ามแล้วจะดึงไม้กลับเพื่อเตรียมสอดส่งเส้นใบเตยแห้งเส้นต่อไป 
  • ส่วนคนที่ 2 ทำหน้าที่จัดเส้นใบเตยแห้งให้เข้าที่ เชื่อมต่อให้ชิดกัน จากนั้นหักพับที่ปลายเส้นใบเตยแห้งที่ขอบทั้ง 2 ด้าน แล้วดึงฟืมกระแทกเส้นใบเตยหนามให้แน่นเพื่อก่อให้เกิดรูปแบบลวดลายสีสันงดงามตามที่กำหนด วิธีการทอต้องส่งเส้นใบเตยหนามสลับเชือกตา 1 ลง ตา 2 ขึ้น ทำการทอด้วยวิธีการนี้ไปกระทั่งเสร็จ เสื่อ 1 ผืนใช้ใบเตยหนามแห้งประมาณ 4 กิโลกรัม และแรงงาน 2 คน จะทอเสื่อได้ 1-2 ผืน ต่อวัน

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. https://www.doa.go.th/oard8/wp-content/uploads/2019/08/v5802-03.pdf
  2. https://www.doa.go.th/plan/wp-content/uploads/2021/05/2226
  3. https://www.technologychaoban.com/bullet-news-today/article_174925