งิ้ว ชื่อสามัญภาษาไทย | งิ้ว | ชื่อสามัญภาษาอังกฤษ | Cotton tree, Kapok tree, Red cotton tree, Silk cotton, Shving brush | ชื่อวิทยาศาสตร์ | Bombax ceiba L. | ชื่อพ้อง | Bombax malabaricum DC., Gossampinus malabarica Merr. | ชื่อวงศ์ | Malvaceae | ชื่อท้องถิ่น | งิ้วบ้าน (ทั่วไป), งิ้วแดง (กาญจนบุรี), งิ้วปง งิ้วปกแดง สะเน้มระกา (ชอง-จันทบุรี), งิ้วป่า, งิ้วปงแดง, งิ้วหนาม, นุ่นนาง, ตอเหมาะ (กะเหรี่ยงแดง), ปั้งพัวะ (ม้ง), บักมี้ (จีน) | | | ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ |
ต้นงิ้ว จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกว้างถึงขนาดใหญ่ ลักษณะของต้นเป็นรูปทรงพุ่มเป็นรูปไข่ มีความสูงของลำต้นประมาณ 15-25 เมตร (บ้างว่าสูงประมาณ 25-30 เมตร) และความกว้างของทรงพุ่มประมาณ 15 เมตร ลำต้นมีลักษณะเปลาตรงและมีหนามอยู่ทั่วลำต้นและกิ่ง เห็นข้อปล้องไม่ชัดเจน ต้นอ่อนจะเป็นสีเขียวอ่อน เมื่อแก่จะเป็นสีเขียวเข้ม ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ด โดยจะพบขึ้นในที่ราบและตามป่าเบญจพรรณ ตามเชิงเขาและไหล่เขาที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 100-600 เมตร ซึ่งในปัจจุบันต้นงิ้วจะหาดูได้ยากมาก จะมีปลูกเฉพาะถิ่นทางภาคเหนือไม่กี่ที่เท่านั้น
ใบเป็นใบประกอบแบบนิ้วมือ มีใบย่อยประมาณ 3-7 ใบเรียงสลับกัน ลักษณะของใบเป็นรูปรีถึงรูปไข่ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบเรียว ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1.5-2.5 นิ้ว และยาวประมาณ 6-10 นิ้ว ใบสีเขียวไม่มีขน แผ่นใบค่อนข้างหนาและเกลี้ยง ก้านช่อใบยาว โคนก้านบวมเล็กน้อย
ดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกตามปลายกิ่งหรือตามปลายยอด ดอกมีขนาดใหญ่สีชมพูแกมเลือดหมู สีแดง สีแสด และมีที่เป็นสีทองแต่หาได้ยาก ดอกมีกลิ่นหอมเอียน ออกดอกเป็นกระจุกหรือเป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณ 3-5 ดอก ฐานรองดอกเป็นรูปถ้วยแข็ง ๆ หรือเป็นกลีบเลี้ยงติดกัน ปลายแยกออกเป็น 5 กลีบขนาดเล็ก สีเขียวอ่อน ส่วนกลีบดอกมีขนาดใหญ่และหนา มี 5 กลีบเป็นรูปขอบขนาน เมื่อดอกบานเต็มที่จะมีขนาดกว้างประมาณ 8-10 เซนติเมตร ปลายกลีบจะแผ่ออกและม้วนกลับมาทางขั้วของดอก หลุดร่วงได้ง่าย ดอกมีเกสรตัวผู้เป็นเส้นยาวจำนวนมาก เรียงกระจายเป็นวงรอบ สีขาวปนสีชมพู ส่วนเกสรตัวเมียมี 1 ก้าน สีชมพู บริเวณปลายเป็นจุดสีเข้มมีความเหนียว ส่วนรังไข่จะอยู่เหนือวงกลีบ โดยจะออกดอกในช่วงระหว่างเดือนมกราคมต่อเนื่องเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี และจะทิ้งใบก่อนมีดอก
ผลมีลักษณะยาวรีคล้ายฝักรูปทรงกระบอก ที่ปลายทั้งสองข้างของผลจะแหลม ผลเมื่ออ่อนเป็นสีเขียว เมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาล เปลือกของผลแข็ง มีความยาวประมาณ 6-8 นิ้ว และเมื่อแก่จัดจะแตกอ้าออกตามรอยประสาน ในผลมีเส้นหรือปุยสีขาวและมีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมาก ลักษณะเป็นรูปทรงกลมสีดำ และถูกห่อหุ้มด้วยปุยฝ้ายสีขาว ๆ สามารถปลิวไปตามลมได้ไกล
| สรรพคุณทั่วไป |
- รากใช้เป็นยาบำรุงกำลัง
- ยางใช้เป็นยาบำรุงโลหิต
- เมล็ดช่วยแก้โรคมะเร็ง
- เปลือกต้นช่วยบำรุงระบบการไหลเวียนของโลหิต
- ดอกแห้งใช้ทำเป็นยาแก้พิษไข้ได้ดีมาก ส่วนหนามมีสรรพคุณแก้ไข้ ลดความร้อน ดับพิษร้อน หนามช่วยหนามแก้ไข้พิษ ไข้กาฬ
- ดอกช่วยระงับประสาท
- ดอกช่วยแก้อาการกระหายน้ำ
- รากนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาทำให้อาเจียนถอนพิษ
- ใบช่วยรักษาต่อมทอนซิลอักเสบ ต่อมในคออักเสบ
- ใบช่วยแก้ต่อมน้ำลายอักเสบ
- เปลือกต้นและรากช่วยรักษากระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง
- เปลือกต้น ราก และดอก ช่วยแก้อาการท้องเสีย ลงท้อง บรรเทาอาการท้องเดิน
- เปลือกต้นช่วยแก้บิด ดอกแก้บิดมูกเลือด ส่วนอีกข้อมูลระบุว่าดอกแดงจะใช้แก้บิดเลือด (บิดถ่ายเป็นเลือด) ให้นำดอกมาต้มเป็นน้ำชาผสมกับน้ำตาลทรายแดง ใช้ดื่มตอนท้องว่างวันละ 3 ครั้ง ส่วนดอกเหลืองจะใช้แก้บิดมูก ให้ใช้ดอกเหลืองหรือส้มที่เป็นดอกแห้ง เข้าใจว่าใช้ต้มเป็นน้ำชาดื่ม
- ช่วยแก้อาการท้องร่วง โดยใช้ดอกตากแห้งนำมาต้มกับน้ำดื่ม
- รากและเปลือกรากช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร
- ราก เปลือกต้น ดอก และผล ช่วยแก้ตัวพยาธิ
- ดอกและราก ช่วยขับปัสสาวะ
- เมล็ดใช้เป็นยาร่วมกับพิมเสน ใช้รักษาโรคหนองในเรื้อรัง
- ยางช่วยแก้ระดูตกหนักหรือออกมากเกินไป
- เปลือกต้น ราก ดอก และผล ช่วยแก้อาการตกโลหิต
- ช่วยแก้ไตพิการ ไตชำรุด ไตอักเสบ ด้วยการใช้เปลือกต้นงิ้วแดงนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ตากแดดให้แห้ง นำมาต้มกินต่างน้ำทุกวัน (หรือจะเอาน้ำต้มจากเปลือกไปหมักเพื่อทำเอนไซม์ก็ได้)
- ผลอ่อนใช้บำบัดรักษาแผลเรื้อรังในไต
- ยางช่วยขับน้ำเหลืองเสีย
- ดอกและรากมีสรรพคุณช่วยห้ามเลือด ส่วนเมล็ดมีสรรพคุณช่วยห้ามเลือดภายใน
- รากของต้นอ่อนใช้พอกสมานแผล
- ใบและยอดอ่อนใช้ตำพอกรักษาฝี ส่วนรากช่วยแก้ฝีเปื่อยพัง หนามช่วยแก้ฝีประคำร้อย และยังช่วยดับพิษฝี แก้พิษฝีต่าง ๆ
- ดอกช่วยรักษาแผล ฝีหนอง หากเป็นแผลที่มีหนอง ให้ใช้เปลือกต้นนำมาต้มกับน้ำแล้วนำมาใช้ชะล้างทำความสะอาดแผล
- เมล็ดช่วยรักษาโรคผิวหนัง
- ดอกช่วยแก้อาการคัน
- ช่วยแก้หัวลำมะลอก (เม็ดที่ขึ้นตามตัวเป็นหนองพุพองมีพิษ), หัวดาวหัวเดือน (เม็ดตุ่มที่ผุดขึ้นตามตัว มีพิษมาก มักขึ้นที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และนิ้วมือนิ้วเท้า)
- ราก ใบ และผลช่วยแก้พิษงูทุกชนิด
- ดอกแห้งใช้ทำเป็นยาระงับอาการปวด
- ใบแห้งหรือใบสดนำมาตำใช้ทาแก้อาการฟกช้ำ แก้บวม มีอาการอักเสบ
| | | วิธีใช้โดยทั่วไป | ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง ด้วยการใช้เปลือกต้นงิ้วแดง 1 กิโลกรัม นำมาล้างให้สะอาดและหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปใส่ในหม้อต้มยาสมุนไพร เติมน้ำสะอาดลงไป 5 ลิตรและต้มจนเดือด แล้วให้รินเอาแต่น้ำมาดื่มครั้งละ 1 แก้ว (250 มิลลิเมตร) วันละ 2 ครั้งทุกเช้าและเย็น (น้ำงิ้วที่ได้จะมีสีแดงเหมือนน้ำกระเจี๊ยบ)
| แหล่งข้อมูลอ้างอิง |
- ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์. “งิ้ว“. อ้างอิงใน: หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม 1. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.qsbg.org. [7 ม.ค. 2014].
- การดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนดาราพิทยาคม. “งิ้ว, งิ้วบ้าน, งิ้วหนาม“. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.drpk.ac.th. [7 ม.ค. 2014].
- ไทยรัฐออนไลน์. “งิ้ว เป็นอาหารมีสรรพคุณและประโยชน์“. (นายเกษตร). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.thairath.co.th. [7 ม.ค. 2014].
- ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม. “ต้นงิ้ว วัดห้วยหลาด อำเภอรัตภูมิ“. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.m-culture.in.th. [7 ม.ค. 2014].
- Samuel, A.J.S.J., Kalusalingam, A., Chellappan, D.K., Gopinath, R., Radhamani, S., Husain, H. A., Muruganandham, V., Promwichit, P. 2010. Ethnomedical survey of plants used by the orang asli in kampong bawong, Perak, West Malaysia. Joutnal of Ethnobiology and Ethnomedicine. 6:5
- ลานธรรมจักร. “ต้นงิ้ว วิมานฉิมพลีของนางกากี“. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.dhammajak.net. [7 ม.ค. 2014].
- องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้. “ดอกงิ้ว สมุนไพรไทย แคลเซียมสูง รักษาสารพัดโรค“. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.fio.co.th/p/magazine_fio/files/5503.pdf. [7 ม.ค. 2014].
- ภูมิปัญญาอภิวัฒน์. “สมุนไพรเปลือกงิ้วต้มกินแก้ไตพิการ“. (สมหวัง วิทยาปัญญานนท์). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.budmgt.com. [7 ม.ค. 2014].
- รักบ้านเกิด. “การใช้งิ้วแดงรักษาโรคความดันโลหิตสูง“. (บรรทม จิตรชม). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.rakbankerd.com. [7 ม.ค. 2014].
- โครงการเผยแพร่ข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นบนพื้นที่สูง สถาบันวิจัยและพัฒนาที่สูง (องค์กรมหาชน). “Kapok tree“. อ้างอิงใน: หนังสือชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย (เต็ม สมิตินันทน์). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก:eherb.hrdi.or.th. [7 ม.ค. 2014].
- ระบบฐานข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชน สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน). “งิ้วแดง“. (ฉันท์ฐิตา ธีระวรรณ). อ้างอิงใน: thrai.sci.ku.ac.th/node/1694. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.bedo.or.th. [7 ม.ค. 2014].
- หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย (วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม).
- สมุนไพรดอตคอม. “งิ้วแดง“. (manji). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.samunpri.com. [7 ม.ค. 2014].
- คณะนิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ. “มารู้จัก… ต้นงิ้ว กันเถอะ“. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: forensic.rpca.ac.th/pdf/bombax.pdf. [7 ม.ค. 2014].
|
|