กานพลู
  ชื่อสามัญภาษาไทยกานพลู
  ชื่อสามัญภาษาอังกฤษClove
  ชื่อวิทยาศาสตร์Syzygium aromaticum (L.) Merr. & L.M.Perry
  ชื่อพ้องCaryophyllus aromaticus L., Caryophyllus hortensis Noronha, Caryophyllus silvestris Teijsm. ex Hassk., Eugenia caryophyllata Thunb., Eugenia caryophyllus (Spreng.) Bullock & S.G.Harrison, Jambosa caryophyllus (Thunb.) Nied., Myrtus caryophyllus
  ชื่อวงศ์Myrtaceae
  ชื่อท้องถิ่น
 
 
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

    ไม้ต้น ขนาดเล็ก สูงประมาณ 4 – 12 เมตร ลำต้นลักษณะเป็นทรงพุ่มรูปกรวย มีกิ่งล่างเป็นจำนวนมาก มีกิ่งกระโดงหรือกิ่งใหญ่ประมาณ 3 – 5 กิ่ง เปลือกเรียบ ลำต้นมีสีเหลืองน้ำตาล

    ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ๆ ลักษณะใบรูปขอบขนานเป็นมัน ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบเรียว ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย ใบอ่อนมีสีชมพูหรือสีส้ม และเมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว หนาและมัน มีกลิ่นหอม และมีจุดน้ำมันอยู่ทั่วไปบนใบ

    ดอก ออกดอกเป็นช่อกระจุก ลักษณะคล้ายดอกชมพู่ เกิดบริเวณปลายกิ่งหรือปลายยอดหรือซอกใบ ช่อหนึ่งๆ ประกอบด้วยดอกย่อยประมาณ 10 – 15 ดอก กลีบเลี้ยงสีเขียวอมเหลือง มีสีแดงกระจาย เชื่อมติดกันเป็นรูปท่อ ปลายแยกเป็นแฉกรูปสามเหลี่ยมแกมรูปไข่ 4 กลีบ กลีบดอกสีขาว ร่วงง่าย เกสรตัวผู้จำนวนมาก ผลสดรูปไข่กลับแกมรูปรี สีแดงเข้ม ดอกตูมอ่อนจะมีสีเขียวและก่อนที่ดอกจะบานสีของดอกจะค่อยๆ จางลงจนเป็นสีเหลืองและสีชมพูเรื่อๆ ขณะที่ดอกตูมจะมีสีชมพูอมแดง

    ผล เป็นผลเดี่ยวเนื้อหนา ผลที่สุกมีสีม่วงคล้ำคล้ายลูกหว้า

    เมล็ด เป็นเมล็ดเดี่ยว มีลักษณะค่อนข้างนิ่ม ด้านหนึ่งของเมล็ดเป็นร่องลึกลงไป

สรรพคุณทั่วไป

  • กานพลูมีสารประกอบอย่างฟีโนลิกในปริมาณมาก ซึ่งมีสรรพคุณช่วยเรื่องการต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย
  • ใบกานพลูมีส่วนช่วยเผาผลาญแคลอรี ช่วยลดความอยากน้ำตาล และช่วยลดและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • กานพลูแก้ปวดฟัน ด้วยการใช้น้ำมันที่กลั่นมาจากดอกตูมของดอกกานพลูประมาณ 5 หยด แล้วใช้สำลีพันปลายไม้จุ่มน้ำมันนำมาอุดในรูที่ปวดฟันจะช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้ หรือจะนำดอกมาเคี้ยวแล้วอมไว้ตรงบริเวณที่มีอาการปวดฟันก็ได้ หรือจะนำดอกกานพลูมาตำให้แหลก ผสมกับเหล้าขาวเล็กน้อยพอให้แฉะ แล้วนำมาอุดฟันบริเวณที่ปวด หรือจะใช้ดอกตูมที่แห้งแล้วนำมาแช่เหล้าเอาสำลีชุบอุดรูฟันก็ได้เช่นกัน
  • ช่วยรักษาโรครำมะนาด หรือโรคที่มีการอักเสบของอวัยวะรอบ ๆ ฟันนั่นเอง ด้วยการนำดอกมาเคี้ยวแล้วอมไว้ตรงบริเวณที่มีอาการของโรค 
  • ช่วยระงับกลิ่นปาก ดับกลิ่นเหล้าได้เป็นอย่างดี ด้วยการใช้ดอกตูมของกานพลูประมาณ 3 ดอก อมไว้ในปากจะช่วยลดกลิ่นปากลงไปได้บ้าง และยังเป็นส่วนผสมในน้ำยาบ้วนปากหลายชนิด 
  • ดอกช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน หน้ามืดตาลาย
  • ดอกช่วยแก้อาการสะอึก แก้ซางต่าง ๆ 
  • ดอกตูมของกานพลูใช้รับประทานเพื่อขับลม แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ (ดอกตูม)
  • ดอกตูมช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ 
  • กานพลูมีสรรพคุณช่วยลดอาการจุกเสียดแน่นท้อง ที่เกิดจากการย่อยอาหารไม่สมบูรณ์
  • ดอกตูมช่วยกระตุ้นการหลั่งเมือกและช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร 
  • ดอกตูมช่วยแก้อาการท้องเสียในเด็ก 
  • ดอกตูมช่วยแก้อาการเหน็บชา 
  • ดอกตูมช่วยรักษาโรคหืดหอบ 
  • ดอกตูมช่วยแก้อาการไอ ด้วยการอมดอกกานพลู ระหว่างอมอาจจะรู้สึกชาปากบ้างเล็กน้อย 
  • ดอกตูมช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน 
  • ดอกตูมช่วยขับเสมหะ แก้เสมหะเหนียวข้น 
  • ดอกตูมช่วยขับน้ำดี 
  • มีส่วนช่วยในการดูดซึมของธาตุเหล็กให้ดียิ่งขึ้น
  • ดอกตูมช่วยแก้น้ำเหลืองเสีย แก้เลือดเสีย 
  • ดอกตูมช่วยขับน้ำค
  • ดอกตูมช่วยแก้ลม แก้ธาตุพิการ บำรุงธาตุ 
  • ดอกตูมช่วยขับผายลม จับลมในลำไส้ 
  • เปลือกของต้นการพลู ช่วยแก้อาการปวดท้อง แก้ลม และช่วยคุมธาตุ
  • ผลของกานพลูนำมาใช้เป็นเครื่องเทศ ซึ่งเป็นตัวช่วยให้มีกลิ่นหอม
  • น้ำมันหอมระเหยของกานพลู (Essential oil) ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ 
  • น้ำมันหอมระเหยของกานพลู ช่วยทำให้ประสาทสงบ
  • ใช้เป็นยาระงับอาการชักกระตุก ด้วยน้ำมันหอมระเหยจากกานพลู 
  • ช่วยทำให้ผิวหนังชา ด้วยการใช้น้ำมันหอมระเหยจากดอกกานพลู เพราะมีสาร Eugenol ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาชาเฉพาะที่ 
  • ดอกตูมช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเชื้อบิดชนิดไม่มีตัว เชื้อหนอง เชื้อโรคไทฟอยด์ เป็นต้น 
  • น้ำมันหอมระเหยจากกานพลูมีส่วนช่วยฆ่าเชื้อจากบาดแผล แมลงสัตว์กัดต่อยได้
  • งานวิจัยพบว่าน้ำมันกานพลูสามารถช่วยละลายลิ่มเลือดและช่วยลดการจับตัวเป็นก้อนได้
  • กานพลูเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่นำมาใช้ในการย้อมสีผม ซึ่งจะให้สีผมที่ใกล้เคียงกับสีดำ
  • น้ำมันกานพลู (Clove oil) นำมาใช้ในการแต่งกลิ่นอาหาร แต่งกลิ่นสบู่ และยาสีฟัน
  • ประโยชน์ของกานพลูน้ำมันกานพลูมีฤทธิ์ในการช่วยไล่ยุงได้
  • ใช้เป็นส่วนผสมของสมุนไพรในตำรับยาต่าง ๆ หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น พิกัดตรีพิษจักร พิกัดตรีคันธวาต ยาหอมเทพจิต ยาหอมนวโกฐ ยาธาตุบรรจบ ยาประสะกานพลู เป็นต้น
  • กานพลูเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่แนะนำให้รับประทานของหญิงให้นมบุตรเพราะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และทำให้มีน้ำนมเพิ่มมากขึ้น แต่สำหรับหญิงที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันหอมระเหยกานพลู เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
  • ผู้ผลิตบางรายได้นำกานพลูมาทำเป็นบุหรี่ หรือที่เรียกกันว่าบุหรี่กานพลู โดยมีการพัฒนาสูตรใหม่ ๆเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรสชาติ ที่มีทั้งรสช็อกโกแลต รสบ๊วย รสวานิลลา รสผลไม้ และอื่น ๆ มากมาย แต่เหล่านี้ก็ยังถือเป็นอันตรายต่อสุขภาพอยู่ดี จึงไม่ขอแนะนำ และบุหรี่กานพลูก็มีพิษเทียบเท่ากับบุหรี่ทั่วไปอีกด้วย
  • น้ำมันสกัดจากการพลูสามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของ Lactococcus garvieae ในอาหารเลี้ยงเชื้อได้ เมื่อนำอาหารปลาที่ผสมกับน้ำมันกานพลูมาเลี้ยงปลานิล จะทำให้ปริมาณการตายเนื่องจากการติดเชื้อ L. garvieae ของปลานิลลดลง

 
 
แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
  2. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
  3. ฐานข้อมูลเครื่องยาสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี