รางแดง ชื่อสามัญภาษาไทย | รางแดง | ชื่อสามัญภาษาอังกฤษ | Ventilago | ชื่อวิทยาศาสตร์ | Ventilago denticulata Willd. | ชื่อพ้อง | Ventilago calyculata Tul. | ชื่อวงศ์ | Rhamnaceae | ชื่อท้องถิ่น | ก้องแกบ เขาแกลบ เห่าดำ ฮองหนัง ฮ่องหนัง (เลย), ปลอกแกลบ (บุรีรัมย์), เถามวกเหล็ก เถาวัลย์เหล็ก (สระบุรี), กะเลียงแดง (ชลบุรี-ศรีราชา), แสงอาทิตย์ แสงพระอาทิตย์ รางแดง (ประจวบคีรีขันธ์), ก้องแกบ ก้องแกบเครือ ก้องแกบแดง เครือก้องแกบ หนามหัน (ภาคเหนือ), เถาวัลย์เหล็ก เถามวกเหล็ก กะเลียงแดง รางแดง (ภาคกลาง), ทรงแดง (ภาคใต้), ซอแพะแหล่โม (กะเหรี่ยง), ตะแซทูเหมาะ (กะเหรี่ยงแดง), กะเหรี่ยงแดง, โกร่งเคอ, เคือก้องแกบ, เถาวัลย์, ย่านอีเหล็ก | | | ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ |
ต้นรางแดง จัดเป็นไม้เถายืนต้นกึ่งพุ่ม มักเลื้อยตามต้นไม้และกิ่งไม้ เถาเป็นสีเทา ผิวของลำต้นหรือเถาเป็นรอยแตกระแหงเป็นร่องสีแดงสลับ ทำให้เกิดเป็นลวดลายที่สวยงาม (ลำต้นเมื่อยังอ่อนจะเป็นรูปทรงกระบอก เมื่อแก่แล้วจะแตกเป็นสีแดง) ตามกิ่งอ่อนมีขนสั้น ๆ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการทาบเถา กิ่งชำ กิ่งตอน และใช้เมล็ด พรรณไม้ชนิดนี้มักขึ้นตามป่าโปร่ง มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางจังหวัดสระบุรี ส่วนในกรุงเทพฯ มีการปลูกกันบ้างตามบ้าน
ใบรางแดง แผ่นใบเป็นสีเขียว ใบคล้ายกับใบเล็บมือนางหรือกะดังงาไทย ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ยาว รูปไข่แกมขอบขนาน หรือรูปวงรีแกมขอบขนาน ปลายใบแหลม ขอบใบเป็นจักตื้น ใบมีขนาดกว้างประมาณ 4-6 เซนติเมตร และยาวประมาณ 8-14 เซนติเมตร ส่วนก้านใบสั้น[1],[2] เมื่อนำใบมาผิงไฟเพื่อทำยาจะมีกลิ่นคล้ายกับแกลบข้าว
ดอกรางแดง ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบใกล้กับปลายยอด ดอกย่อยมีจำนวนมาก กลีบดอกเป็นสีเขียวแกมเหลืองหรือสีเขียวอมขาว
ผลรางแดง ผลเป็นผลแห้งไม่แตก ผลมีรูปร่างกลม ด้านปลายผลแผ่เป็นครีบคล้ายปีกแข็ง ภายในมีเมล็ดประมาณ 1-2 เมล็ด
| สรรพคุณทั่วไป |
- เป็นยายาขับเสมหะ
- แก้ผิดสาบ ปวดเมื่อยต่างๆ
- ทำให้ชุ่มคอ
- ช่วยเจริญอาหาร
- ขับปัสสาวะ
- เป็นยาอายุวัฒนะ
- ช่วยลดคลอเลสเตอรอล
- ช่วยแก้ร้อนในกระหายน้ำ
- ช่วยบำรุงเส้น แก้เส้น แก้กษัย
- เป็นยาบำรุงกำลัง
| | สรรพคุณเฉพาะส่วนของสมุนไพร | | เถา | ต้มหรือปิ้ง ชงดื่ม แก้เส้นเอ็นตึง แก้กระษัย | | วิธีใช้โดยทั่วไป |
- ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ นำเถารางแดง 1 ขีด เหล้า 200 มิลลิเมตร และน้ำผึ้ง 200 มิลลิเมตร นำมาดองไว้ 15 วัน ใช้กินครั้งละ 30 มิลลิลิตร
- ใช้เป็นยาช่วยทำให้เจริญอาหาร ให้นำเถารางแดง, ต้นกำแพงเจ็ดชั้น, ต้นขมิ้นเครือ, ต้นเถาวัลย์เปรียง และต้นนมควาย นำมาต้มกับน้ำดื่ม
- ช่วยลดคลอเลสเตอรอล ช่วยแก้ร้อนในกระหายน้ำ ช่วยบำรุงเส้นสาย แก้เส้น แก้อาการปวดเมื่อยที่ก้นกบ ให้นำเถาต้มกับน้ำดื่ม
- ใช้เป็นยาขับเสมหะ ให้นำรากต้มกับน้ำดื่มรับประทาน
- แก้ผิดสาบ ให้นำรากรางแดง, รากชะอม, รากเล็บเหยี่ยว, รากสามสิบ, แก่นจันทน์ขาว, แก่นจันทน์แดง, และเขากวาง นำมาฝนใส่น้ำแล้วดื่ม
- นำใบต้มกับน้ำดื่มรับประทาน ช่วยทำให้ชุ่มคอ
- นำใบมาย่างไฟให้กรอบแล้วชงดื่ม ช่วยขับปัสสาวะ
- ใช้เป็นส่วนประกอบในน้ำยาสระผมแก้รังแค ซึ่งประกอบด้วยสมุนไพรอื่นๆ เช่น ใบหมี่เหม็น ส้มป่อยหรือมะนาวหรือมะกรูด และน้ำด่าง(น้ำขี้เถ้า) นำมาต้มรวมกันแล้วนำน้ำที่ได้ไปสระผม
| แหล่งข้อมูลอ้างอิง |
- หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5. (ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม). “รางแดง”. หน้า 677-678.
- หนังสือสมุนไพรพื้นบ้านล้านนา. (ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล). “รางแดง”. หน้า 221.
- หน่วยบริการฐานข้อมูลสมุนไพร สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. “รางแดงรักษาเบาหวาน?”. อ้างอิงใน: หนังสือสมุนไพร ไม้พื้นบ้าน เล่ม 4 คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.medplant.mahidol.ac.th. [29 พ.ค. 2014].
- คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม กรุงเทพฯ. (รัฐพล ศรประเสริฐ, ภากร นอแสงศรี, อนงคณ์ หัมพานนท์). “ผลของสารสกัดหยาบจากใบรางแดง (Ventilago denticulata Willd.) ต่อการเจริญของ Colletotrichum gloeosporioides และ Fusarium oxysporum”.
- ฐานข้อมู,สมุนไพรไทย จังหวัดอุตรดิตถ์. “รางแดง”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: industrial.uru.ac.th/herb/. [29 พ.ค. 2014].
- โครงการเผยแพร่ข้อมูลทรัพยากรชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นบนพื้นที่สูง, สถาบันวิจัยและพัฒนาที่สูง (องค์กรมหาชน). “รางแดง, เถารางแดง , เถาวัลย์เหล็ก”. อ้างอิงใน: หนังสือชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย (เต็ม สมิตินันทน์), หนังสือพืชสมุนไพรในสวนป่าสมุนไพรเขาหินซ้อน ฉบับสมบูรณ์ (พงษ์ศักดิ์ พลเสนา). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: eherb.hrdi.or.th. [29 พ.ค. 2014].
- ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. “งวงสุ่ม”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.phargarden.com. [29 พ.ค. 2014].
- ฐานข้อมูลพรรณไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. “Ventilago denticulata Willd.”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.qsbg.org. [29 พ.ค. 2014].
- กลุ่มรักษ์เขาใหญ่. “เครือเขาแกบ…พญาดาบหัก”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: www.rakkhaoyai.com. [29 พ.ค. 2014].
|
|