ผักขมหิน
  ชื่อสามัญภาษาไทยผักขมหิน
  ชื่อสามัญภาษาอังกฤษPigweed, Spreading hog weed
  ชื่อที่เกี่ยวข้องปังแป/ผักขมฟ้า/ผักโขมหิน/ผักปังดิน/ผักเบี้ยหิน
  ชื่อวิทยาศาสตร์Boerhavia diffusa L
  ชื่อพ้องAxia cochinchinensis Lour., Boerhavia adscendens Willd., B. caespitosa Ridl., B. ciliatobracteata Heimerl, B. friesii
  ชื่อวงศ์Nyctaginaceae
  ชื่อท้องถิ่นปังแป, ผักเบี้ยหิน (เหนือ), ผักปั๋งดิน (เชียงใหม่), ผักขมฟ้า (สุโขทัย)
 
 
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ผักขมหินเป็นไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 1 เมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านมาก ตั้งตรงหรือทอดเลื้อยขนานไปตามพื้นดิน ผิวเรียบหรือมีขนบริเวณปลายกิ่ง ลำต้นกลมสีเขียวปนแดง ยอดอ่อนมีขน 

ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม ขนาดไม่เท่ากัน รูปไข่แกมขอบขนานหรือรูปใบหอก กว้าง 1.5-3 เซนติเมตร ยาว 2-4 เซนติเมตร โคนใบกลมหรือตัด ปลายใบแหลมหรือมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบค่อนข้างหนา สีเขียว ท้องใบสีนวล ตลอดแนวขอบใบมีต่อมสีแดง 

ดอกช่อแยกแขนง ลักษณะเป็นช่อกระจุกคล้ายซี่ร่มแยกแขนง ออกที่ซอกใบและปลายกิ่ง ดอกย่อยหลายดอก รูประฆัง กลีบรวมสีขาวชมพู หรือแดง กลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอดสั้น ปลายแยกเป็น 10 กลีบ ปลายมน กลีบรวมยาวประมาณ 0.2 ซม. ก้านช่อดอกมีขน เกสรเพศผู้ 2-3 อัน ยื่นพ้นกลีบรวมเล็กน้อย 

ผลเป็นผลแห้ง มีส่วนโคนกลีบรวมหุ้มอยู่ รูปคล้ายกระบอง เป็นสัน 5 สันตื้น ๆ มีต่อมทั่วไป ยาวประมาณ 0.2-0.3 เซนติเมตร ผิวมีขนจับดูจะเหนียวมือ เป็นวัชพืชทั่วไปในเขตร้อน ในไทยพบทั่วทุกภาคตามที่รกร้าง และข้างถนน

สรรพคุณทั่วไป

  • ต้น ราก และใบมีสรรพคุณเป็นยาแก้ลม ขับลม ทำให้เรอ 
  • ดอกมีสรรพคุณเป็นยาแก้ลมอัณฑพฤกษ์ 
  • ดอกช่วยแก้อาการปวดท้อง 
  • ต้นมีสรรพคุณเป็นยาระบาย 
  • ต้นและดอกใช้เป็นยาขับปัสสาวะ 
  • รากช่วยแก้ริดสีดวงทวารหนัก 
  • ทั้งต้นช่วยแก้ดีพิการ 
  • รากใช้เป็นยาแก้ฝีซ้อน จักษุขาว 
  • ตำรายาพื้นบ้านทางภาคอีสานจะใช้ใบนำมาตำพอกรักษาฝี 
  • ช่วยแก้ฟกบวมในท้อง

 
 
วิธีใช้โดยทั่วไป

  • ต้น ราก และใบ ให้นำมาต้มกับน้ำดื่มก่อนอาหารเช้าและเย็น

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. หนังสือสมุนไพรบำบัดเบาหวาน 150 ชนิด. (เภสัชกรหญิง จุไรรัตน์ เกิดดอนแฝก). “ผักโขมหิน”. หน้า 107-108. 
  2. ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. “ผักขมหิน”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.phargarden.com. [20 พ.ย. 2014]. 
  3. สวนพฤกษศาสตร์สายยาไทย. “ผักขมหิน”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.saiyathai.com. [20 พ.ย. 2014]. 
  4. โรงเรียนละหานทรายรัชดาภิเษก. “ผักขมหิน”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.lrp.ac.th. [20 พ.ย. 2014]. 
  5. สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล. “ฤทธิ์ต้านมะเร็งของผักโขมหิน”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : www.medplant.mahidol.ac.th. [20 พ.ย. 2014]. 
  6. http://www.thaiherbarium.com/main.php?action=viewpage&pid=273