รางจืด
  ชื่อสามัญภาษาไทยรางจืด
  ชื่อสามัญภาษาอังกฤษlaurel clock, blue trumpet vine, laurel-leaved thunbergia
  ชื่อวิทยาศาสตร์Thunbergia laurifolia
  ชื่อวงศ์Acanthaceae
  ชื่อท้องถิ่นกำลังช้างเผือก เครือเขาเขียว ขอบชะนาง ยาเขียว (ภาคกลาง) คาย รางเย็น (ยะลา) จอลอดิเออ ซั้งกะ ปั้งกะล่ะ พอหน่อเตอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ดุเหว่า (ปัตตานี) ทิดพุด (นครศรีธรรมราช) น้ำนอง (สระบุรี) ย่ำแย้ แอดแอ (เพชรบูรณ์)
 
 
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ต้นรางจืด เป็นไม้เลื้อยหรือไม้เถาที่มีเนื้อแข็ง ลำต้นหรือเถานั้นจะกลมเป็นปล้อง มีสีเขียวสดหรือสีเขียวเข้ม ลำต้นไม่มีขนและไม่มีมือจับเหมือนกับตำลึง และมะระ แต่อาศัยลำต้นในการพันรัดขึ้นไป รางจืดเป็นพืชในเขตร้อนและเขตอบอุ่นของทวีปเอเชีย จึงสามารถขึ้นได้ทั่วไปตามป่าดิบชื้นของประเทศไทยทั่วทุกภาค เจริญเติบโตได้เร็วมาก และขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เถาในการปักชำ

ใบรางจืด เป็นใบเดี่ยวออกตรงข้ามกัน ลักษณะของใบคล้ายรูปหัวใจหรือรูปใบขอบขนานหรือเป็นรูปไข่ โคนใบมนเว้า ปลายใบเรียวแหลม ใบกว้างประมาณ 4-7 เซนติเมตร และยาวประมาณ 8-14 เซนติเมตร มีเส้นอยู่ 3 เส้นออกจากโคนใบ

ดอกรางจืด ลักษณะของดอกออกเป็นช่อห้อยลงมาตามซอกใบ ช่อละ 3-4 ดอก ดอกมีสีม่วงอมฟ้า มีใบประดับสีเขียวประแดง มีกลีบเลี้ยงรูปจาน ดอกเป็นรูปแตรสั้น โคนกลีบดอกมีสีเหลืองอ่อน โคนดอกเป็นหลอดกรวยยาวประมาณ 1 เซนติเมตร เชื่อมติดกันเป็นหลอด และมักมีน้ำหวานบรรจุอยู่ภายในหลอด กลีบดอกมีปลายแยกเป็น 5 กลีบ มีเกสรตัวผู้ 4 อัน

ผลรางจืด ลักษณะเป็นฝักกลม ปลายเป็นจะงอย เมื่อแก่จะแตกออกเป็น 2 ซีก

สรรพคุณทั่วไป

  • รากและเถาของรางจืดสามารถใช้รับประทานเป็นยาแก้ร้อนใน 
  • รางจืดมีสรรพคุณช่วยแก้อาการกระหายน้ำ 
  • ใบและรากของรางจืดมีสรรพคุณใช้ปรุงเป็นยาถอนพิษไข้ได้ 
  • ใบรางจืดมีสรรพคุณใช้เป็นยาพอกบาดแผล 
  • ช่วยรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
  • ว่านรางจืดมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการผื่นแพ้ต่าง ๆ
  • เป็นยาเขียวลดไข้
  • ใช้ถอนพิษผิดสำแดง และพิษอื่นๆ
  • ใช้แก้ร้อนใน กระหายน้ำ
  • รักษาโรคหอบหืดเรื้อรัง
  • แก้ผื่นคันจากอาการแพ้ต่างๆ
  • ใช้แก้พิษเบื่อเมาเนื่องจากเห็ดพิษ สารหนู หรือยาฆ่าแมลง
  • แก้ประจำเดือนไม่ปกติ
  • แก้ปวดหู
  • ใช้ตำพอก แก้ปวดบวม
  • แก้พิษร้อนต่างๆ
  • แก้เมาค้าง
  • แก้อาการปวดหัวมึนหัวอันเนื่องมาจากพิษสุรา ถอนพิษสุรา พิษตกค้างในร่างกาย
  • รักษาโรคอักเสบและปอดบวม
  • แก้มะเร็ง
  • ช่วยจับสารพิษในตับหรือล้างพิษในตับ
  • เป็นยาพอกบาดแผล น้ำร้อนลวก ไฟไหม้
  • แก้โรคเบาหวาน

 
 
วิธีใช้โดยทั่วไป

  • ในการรักษาพิษ ใช้ใบสด 10 -12 ใบ นำมาตำจนละเอียดผสมกับน้ำซาวข้าวประมาณครึ่งแก้ว 
  • ส่วนการใช้ประโยชน์จากรากรางจืดในการรักษาพิษ ใช้ราก 1-20 องคุลี ให้นำมาฝนหรือนำมาตำเข้ากับน้ำซาวข้าว แล้วนำมาดื่มให้หมดทันทีที่มีอาการ และอาจจะต้องใช้ซ้ำอีกภายในครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงเช่นเดียวกับการใช้ใบรางจืด 
  • หรือใช้ใบรางจืดทำเป็นชาแล้วรับประทานครั้งละ 2-3 กรัม โดยชงกันน้ำร้อน 100-200 ซีซี วันละ 3 ครั้งก่อนอาหารหรือเมื่อมีอาการ 
  • รักษาโรคเบาหวาน ให้ใช้ใบรางจืดประมาณ 58 ใบ มาโขลกให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำซาวข้าวรับประทานครั้งละ 1 แก้ว 3 เวลา 
  • แก้อาการแพ้ ผื่นคัน ลดการเกิดโรคผิวหนัง โดยใช้ใบหรือเถาสด 10-15 ใบหรือเถาขนาดยาว 10 ซม. ต้มในน้ำประมาณ 10 ลิตร อาบทุกวัน ประมาณ 5-7 วัน  
  • แก้ปวดเมื่อย โดยนำใบ 10-20 ใบ หรือ ใช้เถาตัดเป็นชิ้นๆยาว 1-2 นิ้ว ก่อนนำไปแช่สุราดื่ม
  • ทุกส่วนนำมาตำหรือบดผสมน้ำ ใช้สำหรับพอกแผล ระงับอาการปวด ลดอาการบวม และกำจัดพิษจากสัตว์ต่อย อาทิ งูกัด แมงป่อง ตะขาบ แมงดาทะเล 
  • ทุกส่วนออกฤทธิ์ต้านการอักเสบ เพิ่มประสิทธิภาพการรักษาแผล เช่น รักษาไวรัสเริม ด้วยการบดผสมน้ำเล็กน้อย ก่อนนำไปประคบบริเวณรอยแผลเริม 
  • ทุกส่วนนำมาบดผสมน้ำเล็กน้อย ก่อนนำมาประคบหรือทาแผลสด แผลเป็นหนอง ซึ่งจะช่วยให้แผลแห้งเร็ว ลดการติดเชื้อ ลดอาการบวมของแผล 
  • ทุกส่วนนำมาต้มน้ำดื่มหรือคั้นน้ำดื่มสำหรับใช้เป็นยาแก้ร้อนใน และช่วยบรรเทาอาการกระหายน้ำ 
  • น้ำต้มจากทุกส่วน นำมาดื่มอุ่นๆ สำหรับรักษา และบรรเทาอาการท้องเสียหรืออาหารเป็นพิษ

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. เว็บไซต์ the-than.com
  2. เว็บไซต์ flickr.com (by Dhammavagga)
  3. เว็บไซต์ chiangraifocus.com (by udom-chai)
  4. ปัญญา อิทธิธรรม และคณะ 1999 การใช้สมุนไพรรางจืดขับสารฆ่าแมลงในร่างกายของเกษตรกรกลุ่มเสี่ยงในตำบลเมืองเดช อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี
  5. วิสาตรี คงเจริญสุนทร และปิยรัตน์ พิมพ์ สวัสดิ์,2552. ฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียกลุ่มแกรมลบฉวยโอกาสบางสายพันธุ์ของสารสกัดเมทานอลจากรางจืด. วารสารวิทยาศาสตร์บูรพา.
  6. ภกญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร.รางจืดราชาของยาแก้พิษ.คอลัมน์.เรื่องเด่นจากปก.นิตยสารหมอชาวบ้านเล่มที่385.มกราคม.2554
  7. รางจืด.ฐานข้อมูลเครื่องยาคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (ออนไลน์)เข้าถึงได้จาก http://www.thicrudedrug.com/main.php.?action=viewpaye&pid=115
  8. รศ.พร้อมจิต ศรลัมพ์.รางจืด สมุนไพรแก้พิษและล้างพิษ.บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน.ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล.
  9. รางจืดสมุนไพรล้างพิษ.คู่มือสมุนไพรล้างพิษสำหรับประชาชน.สถาบันวิจัยการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข.สำนักพิมพ์คณะรัฐมนตรีและราชกิจจานุเบกษา.พิมพ์ครั้งที่2.มีนาคม 2554.20หน้า
  10. รางจืดสรรพคุณรางจืด สมุนไพรลดและกำจัดสารพิษ.พืชเกษตรดอทคอมเว็บเพื่อพืชเกษตรไทย(ออนไลน์)เข้าถึงได้จาก http://peuchkaset.com
  11. Toxicity รางจืดและข่อยดำ.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
  12. ดวงรัตน์ เชี่ยวชาญวิทย์,กำไร กฤตศิลป์,เชิดพงษ์ น้อยภู่, 2545. การใช้สมุนไพรรางจืดเพิ่มปริมาณเอนไซม์โคลีนเอสเทอเรสในซีรั่มของเกษตรกรที่พบพิษสารกำจัดศัตรูพืชในร่างกาย)
  13. ข้อมูลสรรพคุณของรางจืดในการข้อยาฆ่าแมลงออกจากร่างกายเกษตรกร.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  14. กนกวรรณ สุขมาก;นงนุช คุ้มทอง;สมยศ เหลืองศรีสกุล;อภันตรี โอชะกุล เตือนใจ ทองสุข , 2547 .การศึกษาประสิทธิผลของสมุนไพรรางจืดในการป้องกันการสะสมของสารเคมีกำจัดแมลงในกระแสโลหิตของเกษตรกร ตำบลไผ่ทำโพ อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร.