ปอบิด
  ชื่อสามัญภาษาไทยปอบิด
  ชื่อวิทยาศาสตร์Helicteres isora L.
  ชื่อพ้องHelicteres grewiaefolia DC., Helicteres roxburghii G. Don, Isora grewiaefolia (DC.) Schott & Endl., Ixora versicolor
  ชื่อวงศ์Malvaceae
  ชื่อท้องถิ่นปอทับ (เชียงใหม่), มะบิด (ภาคเหนือ), ข้าวจี่ (ลาว), ปอบิด
 
 
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ปอปิดเป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูง 1-3 เมตร แตกกิ่งก้านเป็นกอตั้งแต่โคนต้น ทุกส่วนมีขนสีน้ำตาลปกคลุม กิ่งอ่อนมีขนรูปดาวหนาแน่น มีช่องอากาศ เปลือกลำต้นเรียบ มียางเหนียว 

ใบเดี่ยว เรียงเวียนรูปไข่ กว้าง 5.5-7.5 ซม. ยาว 8.5-15 ซม. ปลายใบเป็นแฉก ไม่เป็นระเบียบ 3-5 แฉก แฉกกลางสุดยาวคล้ายหาง โคนใบกลมหรือรูปหัวใจ ขอบหยักคล้ายฟันปลา แผ่นใบกึ่งหนาคล้ายแผ่นหนัง ด้านบนมีขนสากคาย ด้านล่างมีขนรูปดาว หรือขนสั้นหนานุ่ม เส้นโคนใบ 3-5 เส้น เส้นใบย่อย แบบขั้นบันไดชัดเจนทางด้านล่าง ก้านใบ ยาว 0.5-2 ซม. มีขน หูใบรูปแถบ ยาว 3-7 มม. 

ช่อดอก แบบช่อกระจุก ออกที่ซอกใบ มี 5-8 ดอก ก้านช่อดอกสั้น ก้านดอก ยาว 3-5 มม. มีขน ใบประดับและใบประดับย่อย รูปแถบ ยาว 3-5 มม. กลีบเลี้ยงมีสีเหลืองอมเขียวอ่อน ยาว 1-2 ซม. เบี้ยว ติดทน มีขนรูปดาวถึงขนสั้นหนานุ่ม โคนกลีบเชื่อมกันเป็นหลอด ยาว 2-2.5 ซม. ปลายแยกเป็นแฉก ไม่เท่ากัน 5 แฉก รูปสามเหลี่ยม ยาว 5-9 มม. กลีบดอกสีแดงอมส้ม มี 5 กลีบ ขนาดไม่เท่ากัน รูปหอกกลับ ยาว 2.5-3 ซม. โค้งพับลง กลีบคู่บนมีขนาดใหญ่กว่ากลีบอื่น ปลายกลีบมน เกสรเพศผู้และเพศเมีย มีก้านชูยื่นยาว โผล่พ้นกลีบดอกออกมามาก เกสรเพศผู้สีเหลือง 10 อัน โคนเชื่อมกันเป็นหลอด รูปถ้วย รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ อยู่ภายในหลอด ก้านชูอับเรณู มีขนหนาแน่น มี 5 ช่อง แต่ละช่องมีออวุลจำนวนมาก เกสรตัวเมีย 5 อัน 

ผล แบบผลแห้งแตก สีน้ำตาลเข้ม มีขนปกคลุม ผลรูปทรงกระบอก ผิวไม่เรียบ สากมือ กว้าง 7-10 มม. ยาว 3-6 ซม. ผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่เต็มที่มีสีน้ำตาลหรือดำ ผลเป็นฝักกลมยาวบิดเป็นเกลียวเหมือนเกลียวเชือก หลังผลแตก ฝักจะอ้าออกเห็นเมล็ดรูปกึ่งสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด สีน้ำตาล ยาว 2-2.5 มม. เกลี้ยง พบตามป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ชายป่าดิบ ที่รกร้าง ความสูงจากระดับน้ำทะเล 100-400 เมตร ออกดอกและเป็นผลตลอดทั้งปี เปลือกลำต้นและกิ่ง ให้เส้นใยใช้ทำเชือก กระสอบ กระดาษ ในสมัยก่อนในชวาใช้ทำกระสอบ ในอินเดีย ใช้ทำกระดาษ ต้นปลูกเป็นไม้ประดับ กิ่งและใบ ใช้เป็นอาหารสัตว์

สรรพคุณทั่วไป

ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ช่วยลดความโลหิต ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด มีส่วนในการช่วยลดน้ำหนัก ช่วยรักษาอาการไมเกรน ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ ช่วยรักษาโรคไทรอยด์ ช่วยบำรุงตับและไต ช่วยบรรเทาอาการของโรคไต ช่วยป้องกันการเกิดและช่วยแก้โรคเหน็บชาตามปลายมือปลายเท้า ปอกะบิดเกลียวทอง สรรพคุณช่วยแก้อาการนิ้วล็อก ช่วยรักษาโรคเกาต์ อาการปวดข้อ ปวดหลัง ปวดเข่า ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวระบบภายในมดลูกของสตรี
 
สรรพคุณเฉพาะส่วนของสมุนไพร
 
  เปลือกต้น ราก บำรุงธาตุ แก่ท้องร่วง
  ต้นบำรุงธาตุ แก่ท้องร่วง
  รากบำรุงธาตุ แก้ท้องร่วง
 
วิธีใช้โดยทั่วไป

ตำรายาไทย 
  • เปลือกต้น ราก และผล รสขม ฝาดเล็กน้อย เป็นยาร้อนเล็กน้อย ออกฤทธิ์ต่อม้าม ใช้เป็นยาแก้ปวดท้อง แก้กระเพาะอาหาร หรือลำไส้อักเสบเรื้อรัง หรือเป็นแผล แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้ไข้หวัดตัวร้อน ขับเสมหะ ขับลม แก้บิด ปวดเบ่ง 
  • เปลือกต้น ราก รสฝาดเฝื่อน บำรุงธาตุ แก้ท้องร่วง แก้บิด ขับเสมหะ 
  • ผล รสฝาด แก้ปวดท้อง แก้กระเพาะอาหาร ลำไส้อักเสบเรื้อรัง แก้ท้องขึ้นอืดเฟ้อ ขับลม ขับเสมหะ แก้เสมหะพิการ แก้บิด แก้ท้องเสีย ปวดเบ่ง ตำพอกแก้เคล็ด ขัด บวม ใช้ภายในหรือภายนอก แก้โรคทางลำไส้ โดยเฉพาะในเด็ก แก้บิด 
  • ผล เปลือก ฝาดสมานให้เส้นเอ็น 
  • ทั้งต้น  แก้กระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง
  • ในมาเลเซีย และตอนใต้ของไทย ใช้ ผลแห้ง  เป็นยาบำรุง โดยเฉพาะหลังคลอดบุตร
  • ประเทศจีน ใช้ ราก รักษาอาการไตอักเสบเรื้อรัง แผลในกระเพาะอาหาร

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=154